ทนายคดีฉ้อโกง 099-096-4440

ทนายว่าความคดีฉ้อโกง – บริษัท เอสแอลเอส 2017 จำกัด | โทร 099-096-4440
ผู้เชี่ยวชาญด้านคดีฉ้อโกง | ปกป้องสิทธิ์ของคุณในทุกกระบวนการทางกฎหมาย
บริษัท เอสแอลเอส 2017 จำกัด ให้บริการว่าความและให้คำปรึกษาทางกฎหมายใน คดีฉ้อโกง (Fraud Cases) โดยทีมทนายผู้มีประสบการณ์สูง คดีฉ้อโกงถือเป็นความผิดทางอาญาที่มีโทษรุนแรง ทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ หากคุณตกเป็นผู้เสียหาย หรือถูกกล่าวหาในคดีฉ้อโกง เราพร้อมให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายทุกขั้นตอน
โทร: 099-096-4440
เว็บไซต์: www.lawyerthailand.biz
คดีฉ้อโกงคืออะไร?
คดีฉ้อโกง หมายถึง การหลอกลวงโดยเจตนาเพื่อให้ได้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์จากผู้อื่นโดยมิชอบ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในหลายรูปแบบ เช่น การฉ้อโกงเงิน การฉ้อโกงประชาชน หรือการฉ้อโกงผ่านช่องทางออนไลน์
ตัวอย่างคดีฉ้อโกงที่พบบ่อย
• ฉ้อโกงเงินหรือทรัพย์สิน – หลอกให้โอนเงินแต่ไม่ได้รับของ
• ฉ้อโกงประชาชน – หลอกลงทุน แชร์ลูกโซ่ หรือขายฝัน
• ฉ้อโกงออนไลน์ – ซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านอินเทอร์เน็ตแต่ไม่ได้รับสินค้า
• ฉ้อโกงในธุรกิจ – โกงหุ้นส่วน ยักยอกเงินบริษัท หรือสัญญาจ้างปลอม
• ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น – แอบอ้างชื่อเพื่อหลอกลวง
• ฉ้อโกงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ – หลอกขายที่ดิน บ้าน หรือคอนโด
หากคุณถูกหลอกลวง หรือ ถูกกล่าวหาในคดีฉ้อโกง ควรรีบปรึกษาทนายความเพื่อดำเนินการทางกฎหมายอย่างทันท่วงที
ทำไมต้องเลือกทนายว่าความคดีฉ้อโกง จากบริษัท เอสแอลเอส 2017 จำกัด?
1. มีประสบการณ์ในการสู้คดีฉ้อโกงทุกประเภท
ทีมทนายของเรามีประสบการณ์สูงใน การดำเนินคดีฉ้อโกงทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เสียหายที่ต้องการเรียกร้องทรัพย์สินคืน หรือถูกกล่าวหาในคดีฉ้อโกง เราสามารถช่วยให้คุณได้รับความเป็นธรรม
2. ว่าความในทุกชั้นศาล
เรารับว่าความ ตั้งแต่การสอบสวนของตำรวจ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา โดยวางแผนการต่อสู้คดีอย่างรอบคอบเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
3. ตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียด
การต่อสู้คดีฉ้อโกงต้องใช้หลักฐานที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น เอกสารสัญญา, การโอนเงิน, พยานบุคคล หรือหลักฐานดิจิทัล ทนายของเราจะช่วยคุณ วิเคราะห์หลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์หรือเรียกร้องความเสียหาย
4. ให้คำปรึกษาและช่วยไกล่เกลี่ยคดีฉ้อโกง
นอกจากการว่าความในศาล เรายังสามารถช่วย เจรจาไกล่เกลี่ย ให้คดีจบลงโดยเร็ว ลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับลูกความ
บทลงโทษของคดีฉ้อโกงตามกฎหมายไทย
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริตหลอกลวงผู้อื่นให้ส่งมอบทรัพย์สิน หรือให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ไปซึ่งประโยชน์ มีโทษดังนี้
• โทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี
• โทษปรับ ไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แต่หากเป็นการฉ้อโกงประชาชน (มาตรา 343) โทษจะหนักขึ้นเป็น
• โทษจำคุก 5 - 10 ปี
• โทษปรับ 100,000 - 200,000 บาท
หมายเหตุ: หากมีการกระทำผิดหลายกรรม ศาลอาจลงโทษเพิ่มขึ้นตามความร้ายแรงของคดี
กระบวนการว่าความคดีฉ้อโกง
1. รับฟังปัญหาและตรวจสอบหลักฐาน
• ตรวจสอบรายละเอียดคดี
• วิเคราะห์พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
• ให้คำปรึกษาทางกฎหมาย
2. ยื่นฟ้องหรือสู้คดีในชั้นสอบสวน
• แจ้งความดำเนินคดีหากเป็นฝ่ายผู้เสียหาย
• เตรียมแนวทางต่อสู้หากเป็นผู้ถูกกล่าวหา
• ขอปล่อยตัวชั่วคราว (ประกันตัว) หากจำเป็น
3. ว่าความในศาล
• นำเสนอหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อคดี
• พิสูจน์ข้อเท็จจริงเพื่อลดโทษหรือยกฟ้อง
• ต่อสู้คดีด้วยกลยุทธ์ทางกฎหมายที่เหมาะสม
4. อุทธรณ์หรือฎีกาหากจำเป็น
หากคำตัดสินไม่เป็นไปตามที่ต้องการ สามารถยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาเพื่อให้ศาลพิจารณาคดีใหม่
แนวทางป้องกันการถูกฉ้อโกง
1. ตรวจสอบข้อมูลก่อนทำธุรกรรม – ตรวจสอบตัวตนของคู่สัญญา
2. อย่าโอนเงินให้บุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ
3. ใช้สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร – ป้องกันปัญหาข้อพิพาทในอนาคต
4. ปรึกษาทนายก่อนลงทุน – ลดความเสี่ยงจากการถูกหลอก
ติดต่อทนายว่าความคดีฉ้อโกง | บริษัท เอสแอลเอส 2017 จำกัด
หากคุณต้องการ ทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านคดีฉ้อโกง ติดต่อเราได้ทันที เพื่อขอคำปรึกษาและดำเนินการทางกฎหมายอย่างถูกต้อง
โทร: 099-096-4440
เว็บไซต์: www.lawyerthailand.biz
เราพร้อมช่วยคุณปกป้องสิทธิ์และต่อสู้คดีฉ้อโกงด้วยความเป็นมืออาชีพ


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

การหลอกลวง ฉ้อโกงคนอื่นมีตั้งแต่หลอกลวงคนคนเดียวไปจนถึงหลอกลวงคนเป็นจำนวนมาก และมีหลากหลายรูปแบบ สิ่งที่ต้องการจากการหลอกลวงก็แตกต่างกันไป และความผิดฐานฉ้อโกงคนอื่นจะมีโทษที่หนักเบาแตกต่างกันไปตามความรุนแรงของความผิดที่ทำ ซึ่งมีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 

1.หลอกลวงธรรมดาทั่วไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 

ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.ฉ้อโกงโดยแสดงตัวเป็นคนอื่น หรืออาศัยความเบาปัญญาของเด็ก หรือความอ่อนแอทางจิต มาตรา 342

คนทำผิดตามมาตรานี้จะได้รับโทษหนักขึ้นอีก เพราะทำความผิดกับคนที่อ่อนแอกว่า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. ฉ้อโกงประชาชน มาตรา 343

การฉ้อโกงประชาชนไม่ได้ดูที่จำนวนคนที่ถูกโกงแต่ดูที่เจตนา ถ้าการหลอกลวงทำไปด้วยการแสดงข้อความเท็จ หรือปิดบังความจริงที่ควรบอกให้รู้ และต้องการให้คนทั่วไปทุกคนเชื่อแบบไม่เฉพาะเจาะจงคน จะเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แต่จะมีโทษเพิ่มขึ้นอีก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 7 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 140,000 บาท ถ้า…

  • หลอกลวงด้วยการแสดงตัวเป็นคนอื่น
  • หลอกลวงเด็ก หรือคนที่มีความอ่อนแอทางจิต

4. ฉ้อโกงแรงงาน มาตรา 344

ความผิดฐานฉ้อแรงงาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยต้อง

  • หลอกลวงคนตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป
  • ให้ทำงานให้ตัวเองหรือบุคคลที่ 3 ก็ได้
  • โดยมีเจตนาที่จะไม่จ่ายค่าแรงให้
  • หรือมีเจตนาที่จะจ่ายค่าแรงให้น้อยกว่าที่ตกลงกันไว้

5. ฉ้อโกงค่าอาหารเครื่องดื่ม เข้าพักโรงแรมฟรี มาตรา 345

ไปหลอกเพื่อให้ได้กิน ดื่ม หรือเข้าพัก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตัวเองจ่ายไม่ได้แน่ ๆ โดยตั้งใจจะไม่จ่ายตั้งแต่แรก ความผิดนี้มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

6. ชักจูงเพื่อเอาเปรียบผู้อื่น มาตรา 346

ความผิดในข้อนี้ไม่จำเป็นต้องหลอกลวงแค่ชักจูงให้ทำก็มีความผิดแล้ว

ผู้ใดเพื่อเอาทรัพย์สินของผู้อื่นเป็นของตนหรือของบุคคลที่สาม ชักจูงผู้หนึ่งผู้ใดให้จำหน่ายโดยเสียเปรียบซึ่งทรัพย์สิน โดยอาศัยเหตุที่ผู้ถูกชักจูงมีจิตอ่อนแอ หรือเป็นเด็กเบาปัญญา และไม่สามารถเข้าใจตามควรซึ่งสาระสำคัญแห่งการกระทำของตน จนผู้ถูกชักจูงจำหน่ายซึ่งทรัพย์สินนั้น มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

7. ฉ้อโกงประกันภัย มาตรา 347

ความผิดในข้อนี้ต้องมีการแกล้งทำให้เกิดความเสียหายกับวัตถุที่เอาประกันภัยไว้ เพื่อให้ตัวเองหรือคนอื่นได้รับประโยชน์จากการประกันวินาศภัย มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  

จะเห็นว่าความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การหลอกลวงคนคนเดียว แต่ยังมีความผิดเกี่ยวกับการหลอกคนส่วนมากในสังคมอีกด้วย และในมาตรา 348 ระบุไว้ว่าความผิดฐานฉ้อโกงเป็นความผิดที่ยอมความได้ทั้งหมด ยกเว้นการฉ้อโกงประชาชน มาตรา 343 เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้

Visitors: 95,085