ทนายคดีแพ่ง
คดีแพ่ง คืออะไร?
คดีที่ฟ้องเพื่อเรียกเงินระหว่างกันเช่น คดีกู้ยืมเงิน คดีผิดสัญญา คดีเช่าทรัพย์ คดีตั๋วเงิน คดีจำนอง คดีซื้อขาย คดีมรดก เป็นต้นเป็นคดีที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของบุคคล 2 ฝ่ายที่มีการทำผิดสัญญาหรือโต้แย้งสิทธิกัน เป็นเรื่องที่ผู้ได้รับการโต้แย้งสิทธิ จะฟ้องร้องอีกฝ่ายที่ทำการโต้แย้งสิทธิ หรือทำผิดสัญญา
การฟ้องร้อง
การฟ้องร้องคดีแพ่ง ต้องมีการจ้างทนายความเพื่อฟ้องร้อง ต้องมีการเสียค่าขึ้นศาล ค่าส่งหมายให้ฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้ทราบถึงการฟ้องร้องนั้น ค่าคำร้อง และอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งค่าธรรมเนียมต่าง ๆ จะมีการรวบรวมไว้ และเมื่อชนะคดีแล้ว ศาลจะพิพากษาให้จำเลยใช้เงินค่าธรรมเนียมต่าง ๆ นั้น แทนโจทก์ และเมื่อชนะคดีโจทก์ก็ต้องนำยึดทรัพย์สินของจำเลย (ถ้ามี) เพื่อนำออกขายทอดตลาด และนำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดมาชำระหนี้คืนให้แก่โจทก์
องค์ประกอบหมายเรียกของคดีแพ่ง
1.หมายเรียก
ซึ่งในหมายดังกล่าวจะมีการกำหนดไว้ว่าเราจะต้องไปศาลในวันไหนบ้าง แล้วจะระบุว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีประเภทอะไร เช่นคดีแพ่ง คดีผู้บริโภค คดีแรงงาน คดีมโนสาเร่หรือไม่มีข้อยุ่งยาก ซึ่งคดีแต่ละประเภท ก็จะมีกำหนดระยะเวลายื่นคำให้การและกระบวนพิจารณาต่อสู้คดีที่แตกต่างกันไปโดยด้านบนขวาของหมายเรียกจะมีการระบุหมายเลขคดีดำ และด้านหน้าของตัวเลข จะมีการระบุคำย่อไว้
2สำเนาคำฟ้อง
เอกสารที่ถัดไปจากหมายเรียก คือสำเนคำฟ้องที่โจยื่นฟ้องเราเข้ามา ในนื้อหาสำเนาคำฟ้องจะมีการบรรยายไว้ว่าสาเหตุที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีเรา เนื่องจากเราได้ไปทำอะไรไว้ หรือมีสาเหตุอะไรเขาถึงได้ยื่นฟ้องนอกจากนี้จะมี เอกสารที่เรียกว่า คำขอท้ายฟ้อง ซึ่งจะระบุว่าโจทก์ต้องการเรียกร้องให้เราทำอะไรเช่นคำขอท้ายฟ้องให้ชำระเงินจำนวนเท่าไหร่ ให้เราขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากที่ดิน ให้เราคืนทรัพย์สินที่พิพาก
3.เอกสารท้ายฟ้อง
เป็นเอกสารที่อยู่ถัดจากคำขอท้ายฟ้อง จะเป็นเอกสารประกอบต่างๆที่ใช้ในการฟ้องร้องดำเนินคดีนี้เช่น หนังสือมอบอำนาจ สัญญา รูปถ่ายและเอกสารหลักฐานต่างๆ เป็นเอกสารที่ใช้ประกอบกับคำฟ้องเพื่อให้เราเข้าใจเรื่องราวว่าเราถูกฟ้องเรื่องอะไร
การยื่นบัญชีระบุพยานในคดีแพ่ง
การยื่นบัญชีระบุพยานก็เพื่อให้คู่ความแต่ละฝ่ายได้มีโอกาสทราบว่าคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะอ้างพยานหลักฐานใด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการจู่โจมทางพยาน
ป.วิ.แพ่ง ม.88 เมื่อคู่ความฝ่ายใดมีความจำนงที่จะอ้างอิงเอกสารฉบับใดหรือคำเบิกความของพยานคนใด หรือมีความจำนงที่จะให้ศาลตรวจบุคคล วัตถุ สถานที่ หรืออ้างอิงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ศาลตั้งหรือความเห็นของผู้มีความรู้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อเถียงของตน ให้คู่ความฝ่ายนั้นยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน โดยแสดงเอกสารหรือสภาพของเอกสารที่จะอ้าง และรายชื่อ ที่อยู่ของบุคคล ผู้มีความรู้เชี่ยวชาญ วัตถุ หรือสถานที่ซึ่งคู่ความฝ่ายนั้นระบุอ้างเป็นพยานหลักฐาน หรือขอให้ศาลไปตรวจ หรือขอให้ตั้งผู้เชี่ยวชาญแล้วแต่กรณี พร้อมทั้งสำเนาบัญชีระบุพยานดังกล่าวในจำนวนที่เพียงพอ เพื่อให้คู่ความฝ่ายอื่นมารับไปจากเจ้าพนักงานศาลถ้าคู่ความฝ่ายใดมีความจำนงจะยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม ให้ยื่นคำแถลงขอระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาลพร้อมกับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมและสำเนาบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมดังกล่าวได้ภายในสิบห้าวันนับแต่วันสืบพยาน